เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 โครงการประกวดออกแบบบรรจุภัณฑ์ The Challenge - Packaging Design Contest 2019 ภายใต้แนวคิด บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน“Move towards a Circular Way”รอบชิงชนะเลิศ  โดยบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด(SCG Packaging) ผู้จัดเวทีรอบชิงชนะเลิศ ในระหว่างวันที่ 3-12 ตุลาคม 2562 โดยในแต่ช่วงวันที่ 3-6 ตุลาคม รูปแบบกิจกรรม “Marketing & Design Camp” เป็นการปรึกษากับนักออกแบบและเจ้าหน้าที่เทคนิคของเอสซีจี  และในวันที่ 12 ตุลาคม เป็นกิจกรรมนำเสนองานและต้นแบบบรรจุภัณฑ์ โครงการ “The Challenge – Packaging Design Contest 2019” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ได้มีเวทีในการแสดงศักยภาพด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และร่วมกันพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทย ภายใต้แนวคิด บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน“Move towards a Circular Way” สำหรับสินค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารแช่แข็ง( Category 1 – Frozen Food ) อาหารพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน (Category 2 – Ready to Cook/ Ready to eat) และเครื่องดื่ม ( Category 3 – Beverage) ซึ่งจากการแข่งขันรอบแรก มีผู้สมัครจากทั่วประเทศ 13 มหาวิทยาลัย 300 ผลงานการออกแบบ และได้ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นโดยคณะกรรมการจนเหลือ 24 ผลงานเพื่อนำเสนอผลงานและต้นแบบบรรจุภัณฑ์ในรอบชิงชนะเลิศ   ผลงาน “KOSHOKU”กลุ่มอาหารแช่แข็ง Category 1 – Frozen Food  โดย นางสาววราภรณ์ สิทธิปกรณ์ และนางสาวอรณัฐ เฉียงสระน้อย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงจันทร์  นาชัยสินธุ์  อาจารย์ประจำหลักสูตรออกแบบนิเทศศิลป์ นำเข้าร่วมกิจกรรมรอบชิงชนะเลิศ  ภายในงานยังมีการเสวนาหัวข้อ การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์ตามแนวทาง  “Move towards a circular way” โดย อ.เอกก์ ภทรธนกุล คุณสมชนะ  กังวารจิตต์และทีมSCG  สุดท้ายคุณวิชาญ จิตร์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจแพคเกจจิ้ง เอสซีจี กล่าวชื่นชมผู้ร่วมโครงการ ผู้สนับสนุน ประกาศผล มอบรางวัลและให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขัน โดยรางวัล ผลงาน “เหนียวนิ”Best of Challenge  ณ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ที่ Hall 1 SCG บางซื่อ กรุงเทพฯ

       สาขาวิชาศิลปะการแสดง แขนงวิชานาฏศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีไหว้ครู ครอบครูนาฏศิลป์ ระหว่างวันที่ 18 – 19 กันยายน 2562 ณ โรงละคร คณะฯ มีนักเรียน นักศึกษาทั้งภายในและภายนอกจังหวัดขอนแก่นร่วมพิธีกว่า 300 คน ซึ่งในวันที่ 18 กันยายน พิธีได้เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 16.00 ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็นพร้อมทั้งแสดงพระธรรมเทศนา

                จากนั้นในเช้าวันที่ 19 กันยายน 2562 จึงประกอบพิธีไหว้ครู ครอบครูนาฏศิลป์ โดยก่อนเริ่มต้นพิธีได้มีพิธีบวงสรวงเครื่องสังเวย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ จนเสร็จสิ้นในเวลา 9.00 น.จึงได้ประกอบพิธีไหว้ครู ผู้ประกอบพิธี โดย อาจารย์ไพฑูรย์ เข้มแข็ง ผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร เป็นประธานประกอบพิธี (นุ่งห่มผ้าขาว) ก่อนเริ่มพิธี ผศ.ธรณัส หินอ่อน หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีและการแสดง ประธานในพิธีได้ขึ้นจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย

การเรียนการสอนด้านนาฏศิลป์มีระเบียบแบบแผนที่สืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย เริ่มต้นแต่ก่อนเรียนตลอดไปจนถึงสำเร็จการศึกษา  การไหว้ครู นับเป็นหนึ่งในพิธีกรรมสำคัญที่ผู้เรียนด้านนาฏศิลป์จะต้องเข้าร่วมเป็นประจำทุกปี  โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นเรียนใหม่ควรเข้าร่วมพิธีไหว้ครูและครอบครูก่อนเริ่มเรียนหรือก่อนรับการถ่ายทอดกระบวนท่ารำ  อีกทั้งกระบวนท่ารำบางเพลง เช่น เพลงหน้าพาทย์ หรือ การแสดงหายากบางชุด กำหนดไว้เป็นขนบจารีตว่าจะสามารถรับการถ่ายทอดได้เฉพาะบุคคลที่ผ่านการไหว้ครู-ครอบครูนาฏศิลป์แล้วเท่านั้นยังความจำเป็นให้นักศึกษา-ผู้เรียนด้านนาฏศิลป์ ต้องประกอบพิธีไหว้ครู-นาฏศิลป์ เพื่อให้เป็นไปตามขนบจารีตของการเรียนการสอนนาฏศิลป์ และสร้างความเป็นศิริมงคลแก่ตัวผู้เรียนเอง

       คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นขอแสดงความชื่นชมยินดีกับนายพงศธร  ทิพาเสถียร นักศึกษาสายวิชาทัศนศิลป์ สาขาวิชาจิตรกรรม ที่สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 เงินรางวัล 40000 บาทและรางวัลสำหรับสถาบันการศึกษาที่มีเยาวชนได้รางวัล 10000 บาท บทเวทีการปรกวดผลงานศิลปะ “จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ 13” ในชื่อผลงาน เรื่องราวของเจ้าทองเทา. จากวรรณกรรมเรื่อง หมา(อยู่)วัด ผู้เขียน โสมประภัส ขันธ์สุวรรณ ซึ่งใช้เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานคือ สีอะคริลิคบนผ้าใบ ขนาด 180 x150 cm.

แนวคิดผลงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้นายพงศธร ทิพาเสถียรได้ให้ข้อมูลว่า เหตุผลที่เลือกวรรณกรรมเรื่อง “ หมา (อยู่) วัด ”

       ข้าพเจ้าประทับใจในวรรณกรรมเรื่องนี้นำเอาคติธรรมหรือพุทธปรัชญามาสอดแทรกในเนื้อหาสาระ ความบันเทิงและแง่มุมทางความคิดที่ดีงาม และความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่วัดเป็นอย่างดี  ในเนื้อเรื่อง “ วัด ” ของเจ้าเทาทองไม่ได้เป็นแค่ที่กินที่อยู่ของเหล่าหมาวัดเท่านั้น แต่วัดยังเป็น “ สถานที่ปฏิบัติงาน ” ของเหล่าหมาลูกวัดที่รักษาความปลอดภัยคอยรักษาการณ์ทั่วเขตอารามตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และเป็น “ เนิร์ดเซอรรี่ ” สำหรับหมาแบเบาะ เป็น “ โรงเรียน ” สำหรับหมาเล็ก เป็น “ มหาวิทยาลัย ” สำหรับหมาผู้ใหญ่ และเหนือสิ่งอื่นใด วัดยังเป็น “ บ้าน ” ที่อบอุ่น เป็นที่ที่มีเพื่อนมากมายร่วมทุกข์ร่วมสุข มีพระที่เมตตาเลี้ยงดูบรรดาหมาวัดไม่ต่างจากพ่อและแม่ บริบทเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราคนไทยคุ้นตาเป็นอย่างมากระหว่าง หมา กับ วัด ความเมตตาและการกตัญญูรู้บุญคุณของผู้มีพระคุณเป็นสิ่งดีงามที่เราคนไทยถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก  วรรณกรรมเรื่องนี้จึงสะท้อน ความสุขในบริบทของชาวพุทธ และความงดงามในวิถีชีวิตของคนไทยเป็นอย่างดี  “ ความดีและความรักอันบริสุทธิ์นั้น เป็นธรรมชาติอันสวยงามออย่างหนึ่งที่เกิดและอยู่บนโลกนี้ควบคู่กับความมีชีวิตไม่ว่าชีวิตนั้นจะเป็นคนหรือสัตว์

     เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะฯ ซึ่งในปีนี้ได้ก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 25 มีคณะและหน่วยงานต่างๆภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างมากมาย ก่อนเริ่มต้นกิจกรรมเป็นประเพณีปฏิบัติสืบเนื่องกันมาของชาวคณะศิลปกรรมศาสตร์ได้มีการบวงสรวงองค์พระพิฆเณศซึ่งเป็นที่สักการะยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยมี อ.ดร.ปรีชาวุฒิ อภิระติง รักษาการแทนคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ เป็นประธานในการจุดธูปเทียนบูชาองค์พระพิฆเณศ  ต่อจากนั้นเป็นการรำถวายมือสักการะโดยนักศึกษาสาขาวิชาศิลปะการแสดง ณ บริเวณวงเวียนหน้าคณะฯ เสร็จสิ้นจากการรำถวายมือได้มีการจัดขบวนแห่หรือ ขบวนเอ้ศิลปกรรม FA เบญจเพส เฉลิมฉลองในวาระ ๒๕ ปี คณะศิลปกรรมศาสตร์เดินผ่านบริเวณวงเวียนหน้าตึกอธิการบดีเข้ามายังคณะศิลปกรรมศาสตร์ ซึ่งทางขบวนนี้ได้คงเอกลักษณ์ความเป็นพื้นเมืองอีสานที่มีการละเล่นที่สนุกสนานเป็นกันเอง สร้างความประทับใจให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้รับชมกัน และในเวลา 10 .30 น. เป็นพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์ ๕ รูป ณ โรงละครคณะศิลปกรรมศาสตร์ และพิธีบังสุกุลอาจารย์และนักศึกษาผู้ล่วงลับ เป็นอันเสร็จกิจกรรมในภาคเช้า

     ในภาคบ่ายวันเดียวกัน ณ โรงละคร คณะฯได้จัดกิจกรรมการกล่าวคำปราศรัยเนื่องในวาระครบรอบ 25 ปี การสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยอดีตคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ประกอบไปด้วย
1. รองศาสตรจารย์สุวิช สถิตวิทยานันท์
2. ศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมศักดิ์ พิกุลศรี
3. รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ

และ 4.นายอรรถยุทธ อินทรปรีชา อดีตหัวหน้าสำนักงานคณบดี

     จากนั้น มีพิธีมอบโล่และเกียรติบัตรแก่บุคลากรและศิษย์เก่าดีเด่น การแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต และดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
นักศึกษาที่สร้างชื่อเสียงให้กับคณะ ในปีนี้ทางคณะได้คัดเลือกนักศึกาผู้ที่เหมาะสมได้รับรางวัลนี้คือนายเจษฎาวุฒิ รักษากุล ที่สามาถคว้ารางวัลชนะเลิศการขับร้องเพลงกล่อมลูก  พิธีมอบทุนการศึกษา (จาก อ.จตุรงค์ วรนาม ผู้อำนวยการโรงเรียนทุ่งใหญ่โพธิ์ชัย ศิษย์เก่ารุ่นที่ 6) และท้ายสุดเป็นการแสดงกิจกรรมการแสดงจากสาขาวิชาดนตรีและการแสดงประกอบไปด้วย 1. การแสดงดนตรีตะวันตก 2. การแสดงดนตรีไทย 3. การแสดงดนตรีพื้นเมือง 4. การแสดงนาฎยศิลป์อีสาน 5. การแสดงศิลปะการละคร

     ในช่วงเย็นเวลา 17.00 น. ได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล ที่ปรึกษา รักษาการแทน อธิการบดี มาเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ เแสดงผลงานคณาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า สาขาวิชาทัศนศิลป์และออกแบบนิเทศศิลป์ ณ หอศิลป์คณะศิลปกรรมศาสตร์พร้อมด้วย รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสร้างสรรค์ ในพิธีเปิดงาน ได้ให้การกล่าวต้อนรับและรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดนิทรรศการโดย อ.ดร.ปรีชาวุฒิ อภิระติง รักษาการแทนคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ จากนั้นได้เดินเยี่ยมชมผลงานศิลปะภายในหอศิลป์ที่ได้นำมาจัดแสดง